หาก Model Y ไม่ตรวจพบโทรศัพท์หรือกุญแจที่ตรวจสอบสิทธิ์แล้ว และประตูหรือฝากระโปรงที่ล็อกอยู่เปิดออก สัญญาณกันขโมยจะดังขึ้น และไฟหน้าและไฟเลี้ยวจะกะพริบ หากต้องการปิดใช้งานสัญญาณกันขโมย ให้กดปุ่มใดก็ได้ในแอปมือถือหรือแตะคีย์การ์ดหรือกุญแจรีโมตกับตัวอ่านการ์ดที่อยู่ค่อนบนประมาณหนึ่งส่วนสามของเสาประตูด้านข้างฝั่งผู้ขับขี่

หากต้องการเปิดหรือปิดใช้งานระบบสัญญาณกันขโมยด้วยตัวเอง ให้แตะ ควบคุม > ความปลอดภัย > สัญญาณกันขโมย เมื่อเปิดใช้งาน Model Y จะทำงานเป็นเวลาหนึ่งนาทีหลังจากคุณออกจากรถ ล็อกประตูไว้ และไม่ตรวจพบกุญแจที่รู้จักอีกต่อไป

ไซเรนแบบใช้แบตเตอรี่ (หากมีติดตั้ง) จะดังขึ้นในสถานการณ์ที่ประตูหรือฝากระโปรงที่ล็อกอยู่เปิดออก และ Model Y ไม่ตรวจพบกุญแจในบริเวณใกล้เคียง หากคุณต้องการให้ไซเรนนี้ส่งเสียงในสถานการณ์ที่รถตรวจพบการเคลื่อนไหวภายในห้องโดยสาร ให้เปิดใช้การเอียง/การบุกรุก (ดู การเอียง/การบุกรุก (หากมีติดตั้ง))

รถของคุณอาจไม่ได้ติดตั้งฟีเจอร์นี้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการกำหนดค่า ภูมิภาคตลาด และวันที่ผลิต

จะต้องเปิดสัญญาณกันขโมยไว้เพื่อใช้งานการเอียง/การบุกรุก

การเอียง/การบุกรุกจะทำให้สัญญาณกันขโมยในรถคุณส่งเสียงหาก Model Y ตรวจพบการเคลื่อนไหวภายในห้องโดยสาร หรือรถขยับหรือเอียง (ตัวอย่างเช่น มีการใช้รถลากหรือแม่แรง) หากต้องการเปิดใช้งาน ให้แตะ ควบคุม > ความปลอดภัย > การเอียง/การบุกรุก

เซนเซอร์การบุกรุกจะหยุดทำงานเองโดยอัตโนมัติในสถานการณ์ที่ระบบปรับอากาศทำงานเมื่อคุณออกจากรถ หากต้องการยกเลิกการทำงาน คุณจะสามารถเปิดใช้งานเซนเซอร์การเอียง/การบุกรุกอีกครั้งได้หลังจากคุณเลือกโหมดเปิดระบบปรับอากาศต่อไป โหมดสุนัข หรือโหมดแคมป์

เซนเซอร์การเอียง/การบุกรุกจะเปิดใช้งานใหม่โดยอัตโนมัติเมื่อเริ่มต้นทุกรอบการขับ

หากคุณต้องการเปิดใช้งานการควบคุมโดยผู้ปกครอง:

เพื่อเพิ่มระดับการรักษาความปลอดภัย คุณสามารถป้องกันไม่ให้ Model Y สามารถขับได้จนกว่าจะป้อนรหัส PIN 4 หลัก (หมายเลขรหัสเฉพาะส่วนบุคคล) หากต้องการเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ ให้แตะ ควบคุม > ความปลอดภัย > รหัส PIN เพื่อขับ และทำตามข้อความแจ้งบนหน้าจอเพื่อสร้างรหัส PIN สำหรับการขับ

เมื่อเปิดใช้งาน นอกจากต้องป้อนรหัส PIN เพื่อขับ 4 หลักเพื่อขับแล้ว คุณจะต้องใช้รหัสดังกล่าวเพื่อเข้าโหมด Valet เป็นครั้งแรกและสร้าง รหัส PIN 4 หลักสำหรับเข้าและออกจากโหมด Valet อีกด้วย เมื่ออยู่ในโหมด Valet คุณจะสามารถขับ Model Y ได้โดยไม่จำเป็นต้องใส่รหัส PIN สำหรับการขับในโหมด Valet ก็ได้ การตั้งค่า รหัส PIN เพื่อขับ จะไม่ทำงานเมื่อเปิดใช้งานโหมด Valet

หากคุณลืมรหัส PIN สำหรับการขับ ให้แตะลิงก์ที่ป๊อปอัปของรหัส PIN เพื่อขับ เพื่อป้อนข้อมูลการเข้าสู่ระบบ Tesla ของคุณ จากนั้นให้ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอสัมผัส

ปกป้องสิ่งของในช่องเก็บของด้วยรหัส PIN 4 หลัก (ไม่เกี่ยวข้องกับรหัส PIN ในการขับขี่) หากต้องการเปิดใช้งาน ให้แตะควบคุม > ความปลอดภัย > รหัส PIN ช่องเก็บของ และทำตามคำแนะนำบนหน้าจอสัมผัส เมื่อเปิดใช้งาน คุณจะได้รับแจ้งให้ป้อนรหัส PIN เพื่อเปิดช่องเก็บของ เลือกสลับเป็นปิดจากนั้นให้ป้อนรหัส PIN เพื่อลบการป้องกันด้านการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมนี้ออก

หากคุณลืมรหัส PIN ช่องเก็บของของคุณ ให้รีเซ็ตโดยป้อนข้อมูลการเข้าสู่ระบบ Tesla ของคุณ จากนั้นให้ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอสัมผัส

โหมดจำกัดความเร็วจะทำให้คุณสามารถจำกัดการเร่งความเร็วและความเร็วในการขับขี่สูงสุดให้อยู่ในค่าที่เลือกระหว่าง 80 และ 193 กม./ชม. เมื่อคุณใช้งานฟีเจอร์นี้เป็นครั้งแรก คุณจะต้องสร้างรหัส PIN 4 หลักสำหรับใช้เปิดหรือปิดใช้งานโหมดจำกัดความเร็ว เมื่อเปิดใช้งานและความเร็วการขับขี่เพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ประมาณ5 กม./ชม. ของความเร็วสูงสุด สัญญาณเตือนจะส่งเสียง หน้าจอสัมผัสจะแสดงข้อความ และ Model Y จะส่งการแจ้งเตือนให้ในแอปมือถือ นอกจากนี้คุณสามารถแตะ การรักษาความปลอดภัย > โหมดจำกัดความเร็ว เพื่อเปิดใช้งานจากแอปมือถือ Tesla การเปิดใช้งานโหมดจำกัดความเร็วมีวิธีการดังนี้

คุณสามารถล้างข้อมูลเบราว์เซอร์ของรถคุณ (เช่นเดียวกับที่คุณทำในคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน) โดยไปที่การควบคุม > บริการ > ล้างข้อมูลเบราว์เซอร์ การทำเช่นนี้มีประโยชน์ในหลาย ๆ สถานการณ์ เช่น การลบการตั้งค่าหรือการค้นหาจากผู้ขับขี่คนอื่น ๆ

ทำเครื่องหมายที่ช่องในป๊อปอัพหน้าจอสัมผัสเพื่อไม่รวมบุ๊กมาร์ก และ/หรือประวัติเพื่อความสะดวกของคุณ