ประสบการณ์ครั้งใหม่กับการเดินทางด้วย Tesla Model Y

Tesla Model Y ขับขี่สบายทุกการเดินทาง

“มันเป็นการได้ทดลองไปในตัวว่ารถไฟฟ้าจะเหมาะกับการใช้ชีวิตประจำวันของเราไหม หลังจากที่ได้ลองเป็นเจ้าของทั้งหมด 7 วันกับแคมเปญ To MY Home ที่จัดขึ้นโดย Tesla ก็รู้สึกชอบมาก ๆ เพราะว่ารถคันนี้มันตอบโจทย์ และช่วยในการขับขี่ค่อนข้างเยอะ”

คุณธนกรคือหนึ่งในผู้ใช้รถยนต์ทั่วไปและยังไม่เคยสัมผัสรถไฟฟ้ามาก่อน เนื่องจากความแปลกใหม่ของรถไฟฟ้า และติดภาพจำว่าการใช้รถไฟฟ้าจะต้องใช้เวลาชาร์จนาน มีพื้นที่เก็บสัมภาระน้อย รวมถึงความกังวลในระยะการขับขี่จริงและประสิทธิภาพการขับขี่โดยรวม อย่างไรก็ตามเมื่อคุณธนกรได้ลองสัมผัสกับรถไฟฟ้า Tesla และออกเดินทางกลับภูมิลำเนาต่างจังหวัด นี่คือสิ่งที่เขาอยากมาแบ่งปันให้เราทราบเกี่ยวกับประสบการณ์ครั้งใหม่ครั้งนี้

“ตอนที่ขับจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ รถมันติดมาก ๆ ถนนที่นี่จะเป็นทางตรงยาวและเมื่อรถติด นั่นหมายความว่าเราจะต้องเหยียบเบรคตลอดเพื่อให้รถขยับ แต่พอเราได้ใช้ฟังก์ชันช่วยขับขี่รู้สึกว่ามันตอบโจทย์เราได้เยอะมาก ซึ่งปกติแล้วเรามักจะหลีกเลี่ยงการออกเดินทางช่วงเวลาที่รถติด แต่พอมาเป็น Tesla แล้วระบบนี้สามารถเข้ามาช่วยตอบโจทย์ตรงนี้ได้จริง ๆ”

พื้นที่เก็บสัมภาระสุดกว้างตอบโจทย์การเดินทาง

อย่างที่กล่าวไปข้างต้น คุณธนกร ได้ใช้รถไฟฟ้า Model Y คันนี้เดินทางกลับมายังบ้านเกิดที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งในช่วงระยะเวลานี้ เขาได้ใช้นำรถคันดังกล่าวเดินทางมาท่องเที่ยวที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนเพื่อมายังสวนส้มของครอบครัว

“วันที่เราไปมีคนนั่งรถไปด้วยกันทั้งหมด 3 คน รวมกระเป๋าของแต่ละคนหรือของที่เรานำไปบริจาค ก็จุไปได้หมดทุกอย่างเลย แต่พอขากลับ เราต้องขนส้มกล่องละ 5 กิโลกรัม กลับลงมา 30 กล่อง ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ใส่อยู่ในรถ Tesla Model Y ได้”

“ปีที่แล้วเราเอารถยนต์ SUV ของที่บ้านขึ้นมาก็ใส่ได้แค่ 10 กล่องเท่านั้น รวมสัมภาระที่เราขนขึ้นไป ถึงแม้ว่าจะขนได้เยอะไม่เท่ากับรถกระบะแต่เรารู้สึกว่ามันอเนกประสงค์กว่า อันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่ประทับใจมาก ๆ”

Tesla Supercharger เพิ่มความรวดเร็วในการเดินทาง

“พอมาเป็นรถไฟฟ้า เราก็จะต้องมีการวางแผนว่าเมื่อแบตเตอรี่เต็มแล้วจะขับได้ประมาณกี่ร้อยกิโลเมตร เราจะสามารถแวะชาร์จตรงจุดไหนได้บ้าง ซึ่งเราก็ได้มีโอกาสแวะไปลองชาร์จจุดชาร์จที่ตั้งอยู่ด้านนอกห้าง เราก็ลงรถจากรถไปทำธุระส่วนตัวประมาณ 15 นาที พอกลับมาปรากฏว่าแบตของเราชาร์จถึง 80 เปอร์เซ็นต์แล้ว ซึ่งสำหรับผมเองแล้ว มันแทบไม่ต่างอะไรกับการแวะเข้าปั๊มเพื่อเติมน้ำมันเลย มันให้ความรู้สึกเราเหมือนเราชาร์จแบตโทรศัพท์ที่ใช้หัวปลั๊กแบบชาร์จเร็ว”